ข้อควรรู้เกี่ยวกับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ถึงแม้เราไม่ประมาท แต่ถ้าคนอื่นประมาท เราจะได้รับค่าชดเชยอะไร อย่างไรบ้าง เรามาดูกันครับ…

ในกรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายถูก และรถของเราต้องเข้ารับการซ่อมที่อู่ เราสามารถเรียกร้องเงินชดเชยการขาดประโยชน์จากการใช้รถได้จากบริษัทประกันภัยของรถคู่กรณี โดยทาง คปภ. ได้เริ่มประกาศใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 โดยได้กำหนดอัตราการเรียกร้องสินไหมขั้นต่ำไว้ที่ 500 บาทต่อวัน 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ได้ทำภาพอินโฟกราฟิกเรื่อง “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 2562” ซึ่งมีการกำหนดมาตรฐานใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 หากเราเป็นฝ่ายถูก และรถของเราต้องเข้ารับการซ่อมที่อู่ เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภาคสมัครใจ (ประกันฯ ชั้น 1, 2 และ 3) ของบริษัทฯ คู่กรณีของเราได้ โดยเงินชดเชยการขาดประโยชน์จากการใช้รถจะเริ่มต้นที่วันละ 500 บาท สำหรับรถไม่เกิน 7 ที่นั่ง(รวมผู้ขับขี่) และวันละ 1,000 บาท สำหรับรถเกิน 7 ที่นั่ง(รวมผู้ขับขี่)

เอกสารประกอบการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

  1. ใบเคลมของบริษัทประกันภัย
  2. สำเนาใบเคลม (อู่ออกให้)
  3. ใบรับรถ (ระบุวันที่เข้าซ่อม และวันที่นำรถออกจากอู่)
  4. ใบเสนอราคาค่าซ่อมแซม
  5. สำเนาทะเบียนรถ(ของท่าน)(เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)*
  6. สำเนาบัตรประชาชน(เจ้าของรถ) (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)*
  7. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร(เจ้าของรถ)(เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)* 
  8. สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์(ของรถของท่าน) (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)*
  9. ตัวอย่าง แบบฟอร์มเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

*เขียนข้อความกำกับว่า “เอกสารนี้ใช้เพื่อการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมกับ…….ชื่อบริษัทประกัน……………….เท่านั้น

เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว โปรดโทรสอบถาม Call Center ของบริษัทประกันคู่กรณี ถึงวิธีการ และช่องทางการจัดส่งเอกสารต่างๆ ตามข้อ 1 – 9 โดยอาจจะมีบางบริษัทฯ อาจจะมีการขอเอกสารบางอย่างเพิ่มเติมจากข้างต้น

โดยบางบริษัทเราอาจต้องใช้เอกสารตัวจริงให้เราผ่านระะบไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือบริษัทข่นส่งเอกชน เพื่อนำส่งเอกสารตัวจริงทั้งหมดเข้าไปยังบริษัทฯ แต่บางบริษัทฯ ก็จะอำนวยความสะดวกให้เรามากกว่าเช่น ขอให้เรา Scan หรือถ่ายรูปเอกสาร(เห็นตัวหนังสือชัดเจน) ส่งให้ทาง eMail ตามช่องทางที่ Call Center ของบริษัทนั้นๆ ได้แจ้งมา 

โดยเบอร์ติดต่อ Call Center ของบริษัทฯ ประกันต่างๆ ผมได้รวบรวมาให้แล้วตามรูปด้านล่างนะครับ…

Scroll to Top